

เมื่อก้าวเข้าภายในห้องโดยสาร Porsche Cayenne S E-Hybrid เปลี่ยนลุคเพิ่มความสปอร์ตเข้ามาตั้งแต่ พวงมาลัยสปอร์ต มัลติฟังก์ชั่นพร้อมPaddle Shift ดีไซน์เดียวกันกับรุ่น Porsche 918 Spyder รวมถึงยังมีระบบเชื่อมต่อและระบบช่วยเหลือ Porsche Car Connect ที่สามารถควบคุมการทำงานที่หลากหลายผ่านแอปพลิเคชั่นจาก สมาร์ทโฟน ขับง่ายมากขึ้นด้วยระบบ Adaptive Cruise Control และระบบเบาะระบายความร้อน Seat Ventilation สำหรับเบาะหลัง
รวมถึง มีสีใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ได้แก่ สีขาว Carrera White metallic สี Palladium Metallic ส่วนสีภายใน มีทั้งTwo-Tone Colour สีดำ-เบจ และสายไม้ Dark walnut-burr
ความโดดเด่นของ Porsche Cayenne S E-Hybrid อยู่ที่การแนะนำแพลทฟอร์มของรถยนต์ไฮบริดเสียบปลั้กเข้าสู่ตัวตนของรถยนต์อเนกประสงค์ จากเดิมที่เคยแนะนำไปในซีดานของค่าย เช่นเคยต้นกำลังเครื่องยนต์ V6 Turbocharged 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 416 แรงม้า (306 กิโลวัตต์) มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ ลิเธี่ยม-อิออน (lithium-ion) 10.8 kWh ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive
แม้จะเป็นรถไฮบริดเสียบปลั้ก แต่ Porsche Cayenne S E-Hybrid ก็ไม่น้อยหน้าด้านสมรรถนะ ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 243 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ หากต้องการความประหยัดมากกว่า Porsche Cayenne S E-Hybrid ยังสามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้อีกด้วย ระยะเดินทางเฉลี่ยที่ 18-36 กิโลเมตร และยังทำความเร็วในโหมดไฟฟ้าได้มากถึง 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ท้ายสุดเสน่ห์ของความเป็นรถยนต์ไฮบริดยังสร้างให้ Porsche Cayenne SE Hybrid ใหม่นี้มีอัตราประหยัดเฉลี่ยสูงถึง 29.4 ก.ม./ลิตร และปล่อยไอเสียต่ำเพียง 79 กรัม/กิโลเมตร
Porsche Cayenne S E-Hybrid ใหม่เปิดตัววางจำหน่ายในประเทศไทยเพียงรุ่นเดียวในราคา 6,450,000 บาท โดยพร้อมกันนี้ยังมากับการรับประกัน 9 ปี 200,000 กิโลเมตร
ราคาจำหน่าย Porsche Cayenne S E-Hybrid
Porsche Cayenne S E-Hybrid ราคา 6,450,000 บาท
Quote of the Day
Reference :Autoeft